ประเภทของเหล็กลวด Wire Rod
เหล็กลวด (Wire rod) ที่คุ้นตากันก็คงหนีไม่พ้น เหล็กที่เป็นเส้นๆ ไว้กั้นสัตว์เลี้ยงหรือเอาไปดัดสิ่งของต่างๆ แต่! รู้ไหมว่า…เหล็กลวดนั้นมีรายละเอียดยิบย่อยมากกว่านั้นอีก เหล็กลวดสามารถแบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลายทางได้เป็น 6 กลุ่มดังต่อไปนี้
1.เหล็กลวดสำหรับผลิตลวดเหล็กใช้งานทั่วไป (General use)
เหล็กลวดกลุ่มนี้เป็นเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะนำไปผ่านกระบวนการดึงเย็นเพื่อลดขนาดจากเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5.5-19 มม. ให้เหลือ 0.1-18 มม. เพื่อผลิตเป็นลวดเหล็กคาร์บอนต่ำ แล้วนำไปชุบสังกะสีเพื่อป้องกันการเกิดสนิม จากนั้นจึงนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไป เช่น นำไปทุบหัวและทำคมสำหรับผลิตตะปู หรือ นำไปทำการเชื่อมเพื่อผลิตตะแกรงลวดเหล็กกล้าเสริมคอนกรีต
2.เหล็กลวดสำหรับผลิตลวดเชื่อม (Welding wire)
เหล็กลวดกลุ่มนี้ ได้แก่ JIS G 3503 เกรด SWRY 11 โดยนำไปดึงเย็นเพื่อผลิตเป็นลวดเหล็กกล้าสำหรับใช้ผลิตลวดเชื่อม ซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ Metal Inert Gas (MIG) และ Cover Electrode ลักษณะสำคัญของเหล็กลวดในกลุ่มนี้ต้องมีปริมาณสารมลทินต่ำ ความสม่ำเสมอของส่วนผสมทางเคมีที่สูงและต้องควบคุมปริมาณซัลเฟอร์ให้ไม่เกิน 0.023%
3.เหล็กลวดสำหรับผลิตสลักภัณฑ์ (Fastener)
เหล็กลวดกลุ่มนี้มีการใช้งานหลากหลายมาก โดยนำไปดึงเย็นแล้วขึ้นรูปเย็นเป็นชิ้นงานที่อุณหภูมิห้อง โดยจะทำให้ส่วนหัวมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ หลังจากนั้นอาจนำไปทำการชุบสังกะสีเพื่อป้องกันการเกิดสนิม (หรืออาจไม่ชุบก็ได้) ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ ได้แก่ แป้นเกลียว สกรู สลัก ฯลฯ
4.เชือกลวดเหล็กกล้า (Wire rope)
ซึ่งจะนำลวดเหล็กไปตีเกลียวจนกลายเป็นเชือกลวด สำหรับนำไปใช้ทำ cable และงานลวดด้านต่างๆ
5.เหล็กลวดสำหรับนำไปผลิตสปริง
เหล็กลวดกลุ่มนี้ได้แก่ เหล็กลวดคาร์บอนสูงและเหล็กลวดเปียโน ซึ่งการผลิตเหล็กลวดเปียโน สิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึง คือ ส่วนผสมทางเคมีที่ถูกต้อง ไม่มีรอยตำหนิ หรือข้อบกพร่องที่ผิว เนื่องจากจะมีผลต่อคุณสมบัติเชิงกลในการใช้งานอย่างมาก และแบบสปริงที่ผลิตได้ มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ สปริงที่ให้แรงเมื่อเกิดแรงอัด สปริงที่ให้แรงเมื่อเกิดแรงดึง และสปริงที่ให้แรงเมื่อเกิดแรงบิด (Torsion spring) โดยสปริงเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในงานต่างๆ เช่น สปริงในส่วนประกอบของรถยนต์ เครื่องจักรต่างๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า เตียงนอน ฯลฯ เป็นต้น
6.เหล็กลวดสำหรับนำไปผลิตลวดเหล็กเสริมยางรถยนต์
เหล็กลวดกลุ่มนี้ ได้แก่ เหล็กลวดเปียโนที่ถูกนำไปดึงเย็นหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้ลวดเหล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางในช่วง 0.15-0.38 มม. ซึ่งจะนำไปผลิตต่อเป็น Bead Wire สำหรับช่วยยึดโครงสร้างของยาง และ Tyre Cord สำหรับเสริมหน้ายางเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับแรง ซึ่งใช้ในงานผลิตล้อรถต่างๆ รวมถึงล้อเครื่องบินด้วย
ข้อมูลจาก : https://apnhardware.co.th/